- สปีชีส์ทางด้านสัณฐานวิทยา (morphological species)หมายถึง สิ่งมีชีวิตที่แตกต่างกันในลักษณะทางสัณฐานและโครงสร้างทางกายวิภาคของสิ่งมีชีวิต ใช้เป็นแนวคิดในการศึกษาอนุกรมวิธาน
- สปีชีส์ทางด้านชีววิทยา
หมายถึง สิ่งมีชีวิตที่สามารถผสมพันธุ์กันได้ในธรรมชาติ ให้กำเนิดลูกที่ไม่เป็นหมันแต่ถ้าเป็นสิ่งมีชีวิตต่างสปีชีส์กันก็อาจให้กำเนิดลูกได้เช่นกันแต่เป็นหมันแนวคิดของสปีชีส์ทางด้านชีววิทยาโดยพิจารณาความสามารถในการผสมพันธุ์และให้กำเนิดลูกหลานที่ไม่เป็นหมัน ในธรรมชาติมีสิ่งมีชีวิตต่างสปีชีส์กันอยู่ด้วยกันจำนวนมากสิ่งมีชีวิตต่างสปีชีส์กันมีการป้องกันการผสมพันธุ์ระหว่างสปีชีส์ได้โดยกลไกการแยกทางสืบพันธุ์ แบ่งออกเป็น 2 ระดับคือ
- กลไกการแยกทางสืบพันธุ์ก่อนระยะไซโกต
- กลไกการแยกทางสืบพันธุ์หลังระยะไซโกต
- การเกิดสปีชีส์ใหม่จากการแบ่งแยกทางภูมิศาสตร์
การเกิดสปีชีส์ใหม่ในลักษณะแบบนี้เป็นกระบวนการค่อยเป็นค่อยไป อาจใช้เวลานานนับเป็นพัน ๆ หรือล้าน ๆ รุ่น เช่น กระรอก 2 สปีชีส์ในรัฐอริโซนา ประเทศสหรัฐอเมริกาซึ่งมีลักษณะใกล้เคียงกันมาก แต่พบว่าอาศัยอยู่บริเวณขอบเหวแต่ละด้านของแกรนด์แคนยอนซึ่งเป็นหุบผาที่ลึกและกว้าง นักชีววิทยาเชื่อกันว่ากระรอก 2 สปีชีส์นี้เคยอยู่ในสปีชีส์เดียวกันมาก่อนที่จะเกิดการแยกของแผ่นดินขึ้น
- การเกิดสปีชีส์ใหม่ในเขตภูมิศาสตร์เดียวกัน
การเกิดสปีชีส์ใหม่ลักษณะนี้เห็นได้ชัดเจนในวิวัฒนาการของพืช เช่น
การเกิดพอลิพลอยดีของพืชในการเพิ่มจำนวนชุดของโครโมโซม
พอลิพลอยดีเกิดจากความผิดปกติของกระบวนการแบ่งเซลล์แบบไมโอซิสในการสร้างเซลล์สืบพันธุ์
ทำให้เซลล์สืบพันธุ์มีจำนวนโครโมโซม 2
ชุด (2
n) เมื่อเซลล์สืบพันธุ์นี้เกิดการปฏิสนธิจะได้ไซโกตที่มีจำนวนโครโมโซมมากกว่า
2
ชุด เช่น มีโครโมโซม 3
ชุด (3
n) หรือมีโครโมโซม 4
ชุด (4
n) เป็นต้น
การเกิดพอลิพลอยดีอาจเกิดจากสิ่งมีชีวิตสปีชีส์เดียวกันหรือสิ่งมีชีวิตต่างสปีชีส์กัน
ตัวอย่างการเกิดพอลิพลอยดีของสิ่งมีชีวิตต่างสปีชีส์กัน คือ
การทดลองของคาร์ปิเชงโก (Karpechengo)
คาร์ปิเชงโกนักพันธุศาสตร์ขาวรัสเซียซึ่งได้ผสมพันธุ์ผักกาดแดง
ซึ่งมีจำนวนโครโมโซม 18
โครโมโซม (2
n = 18) กับกระหล่ำปลีซึ่งมีจำนวนโครโมโซม 18
โครโมโซม (2
n = 18) เท่ากัน พบว่าลูกผสมที่เกิดขึ้นในรุ่น F1
มีขนาดแข็งแรง แต่ไม่สามารถผสมพันธุ์ต่อไปได้ แต่ลูกผสมในรุ่น F1
บางต้นสามารถผสมพันธุ์กันและได้ลูกผสมในรุ่น F2
ซึ่งมีโอกาสเกิดได้น้อยมาก เมื่อนำลูกผสมในรุ่น F2
มาตรวจดูโครโมโซมพบว่ามีจำนวนโครโมโซม 36
โครโมโซม (2n
= 36) และไม่เป็นหมัน
ถึงแม้ว่าการเกิดสปีชีส์ใหม่แบบพอลิพลอยดีในสัตว์จะพบได้น้อยกว่าในพืช
แต่ก็สามารถเกิดขึ้นได้
อย่างไรก็ตามยังมีกลไกอื่นอีกที่สามารถทำให้สัตว์เกิดสปีชีส์ใหม่
แม้ว่าจะยังคงอาศัยอยู่ในพื้นที่เดียวกับบรรพบุรุษ เช่น
การเปลี่ยนแปลงยีนเพียงไม่กี่ยีนในตัวต่อซึ่งเป็นแมลงช่วยในการผสมเกสรของพืชพวกมะเดื่อ
ทำให้ตัวต่อที่มียีนเปลี่ยนแปลงเลือกไปอาศัยอยู่ในต้นมะเดื่อสปีชีส์ใหม่ทำให้ไม่มีโอกาสได้พบและผสมกับตัวต่อประชากรเดิม
แต่จะได้พบและผสมกับตัวต่อที่มียีนเปลี่ยนแปลงเหมือนกัน จนกระทั่งเกิดตัวต่อ
2
สปีชีส์ที่อาศัยอยู่ในบริเวณเดียวกันในที่สุด
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น